ฤดูร้อนเป็นช่วงที่มักเกิดโรคอีสุกอีใสบ่อย และความเสี่ยงในการแพร่กระจายของโรคอีสุกอีใสจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากยุงและแมลงวันจำนวนมาก เพื่อให้แน่ใจว่าไก่จะมีสุขภาพดี เกษตรกรจำเป็นต้องใช้มาตรการป้องกันและควบคุมเพื่อรับมือกับความท้าทายนี้ในลักษณะที่ชัดเจนและเป็นระบบ
ก. ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคอีสุกอีใสและปัจจัยกระตุ้น
โรคอีสุกอีใส เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากไวรัส โดยส่วนใหญ่มักพบในยุงและแมลงดูดเลือดอื่นๆ ในฤดูร้อนจะมียุงและแมลงวันจำนวนมากซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการแพร่เชื้อไวรัส นอกจากนี้ ไก่ที่หนาแน่นเกินไป การระบายอากาศไม่ดี ความมืดและความชื้นในเล้าไก่ และการขาดสารอาหารก็อาจทำให้เกิดโรคอีสุกอีใสได้เช่นกัน
ข. เข้าใจลักษณะของโรคระบาด
โรคอีสุกอีใสมักเกิดกับไก่ที่มีอายุมากกว่า 30 วัน โดยจะแบ่งตามประเภทของผิวหนัง ประเภทของตา ประเภทของเยื่อเมือก และประเภทผสม ไก่ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนหรือฉีดวัคซีนไม่ผ่านจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากกว่า ไก่ไข่อาจแสดงอาการทางผิวหนังเฉพาะจุดในช่วงแรก แต่เมื่อโรคดำเนินไป อาจมีอาการเช่น น้ำตาไหลและหายใจลำบาก และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
ค. การป้องกันและควบคุมโรคอีสุกอีใสอย่างมีระเบียบชัดเจน
1. การฉีดวัคซีนฉุกเฉินและการปกป้องไก่ที่แข็งแรง:
* ดำเนินการฉีดวัคซีนฉุกเฉินป้องกันโรคอีสุกอีใสให้ไก่ที่มีสุขภาพแข็งแรงทันที โดยใช้ปริมาณวัคซีน 5 เท่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการฉีดวัคซีน
2. การแยกและการรักษา:
* เมื่อพบไก่ป่วยให้แยกออกทันที และกำจัดตัวที่ป่วยหนักทิ้ง
* ดำเนินการบำบัดที่ไม่เป็นอันตราย เช่น การฝังให้ลึกหรือเผาไก่ที่ตายหรือป่วยที่ถูกคัดแยกออก
* ฆ่าเชื้อเล้าไก่ สถานออกกำลังกาย และอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเคร่งครัด
3. ปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการเลี้ยงดู:
* ทำความสะอาดวัชพืชรอบเล้าไก่ เติมคูน้ำและบ่อเกรอะที่มีกลิ่นเหม็น และลดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงและแมลงวัน
* ติดตั้งมุ้งลวดและม่านเพื่อป้องกันยุงและแมลงวันเข้าไปในเล้าไก่
* ลดความหนาแน่นในการเลี้ยงไก่ เสริมสร้างการระบายอากาศ และทำให้เล้าไก่แห้งและสะอาด
4. การบำบัดและดูแลยา:
* สำหรับโรคอีสุกอีใสชนิดผิวหนัง ให้ใช้กลีเซอรีนไอโอดีนหรือเจนเชียนไวโอเลตทาบริเวณที่ได้รับผลกระทบ
* ในโรคอีสุกอีใสชนิดคอตีบ ให้ลอกเยื่อเทียมออกอย่างระมัดระวัง แล้วพ่นยาแก้อักเสบ
* สำหรับโรคอีสุกอีใสชนิดตา ให้ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ฆ่าเชื้อแล้วหยอดตาแก้อักเสบ
5. การป้องกันภาวะแทรกซ้อน:
* ขณะรักษาโรคอีสุกอีใส ควรเน้นการป้องกันการติดเชื้อร่วมหรือการติดเชื้อแทรกซ้อน เช่น โรคสแตฟิโลค็อกคัส โรคต่อมกระเพาะอักเสบติดเชื้อ และโรคนิวคาสเซิล
https://www.incubatoregg.com/ Email: Ivy@ncedward.com
เวลาโพสต์ : 24 พ.ค. 2567